เชน ธนาตรัยฉัตร กลั้นไม่อยู่ ปล่อยโฮ ตอบปมเบี้ยวค่าผลิตสินค้า 79 ล้านบาท

เชน ธนาตรัยฉัตร

เชน ธนาตรัยฉัตร กลั้นไม่อยู่ ปล่อยโฮ ตอบปมเบี้ยวค่าผลิตสินค้า 79 ล้านบาท

ข่าวบันเทิง หลังจากที่กองปราบออกหมายเรียก เชน ธนาตรัยฉัตร และภรรยา เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชื่อดัง เข้ารับทราบข้อหาครั้งที่ 2 หลังถูกบริษัทดังแจ้งความฉ้อโกงค่าผลิตสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท หลังจากที่เชนได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อถึงประเด็นดังกล่าวว่าของทั้งหมดยังไม่ได้ขาย ยังเป็นคดีแพ่งอยู่ เกิดตั้งแต่ตุลา 65 วันนี้มารับเรื่องของอัยการว่าฉ้อโกง ตนมองว่ามันคือธุรกิจ ถ้าศาลมองว่าเป็นหนี้ตนก็ต้องจ่าย ต่อจากนี้เป็นไปตามขั้นตอนตนต้องเรียกพยานมาสนับสนุนว่าตนไม่ได้โกงสินค้า 4 ล้านยังอยู่ในคลัง ยืนยันว่าตนเสียหายจริงๆ ของทุกอย่างอยู่ครบมันมี 2 ล็อต ตำรวจและกองปราบเคยเข้าไปตรวจแล้ว ตนไม่ได้เอาเงินไปใช้จ่ายในบริษัทจริงๆ วันนี้ที่ได้ฟังในรายการโหนกระแส เสียใจ เพราะมันมีข้อมูลบางอย่างไม่ใช่

มีเอกสารว่าตนให้อีกฝ่ายรับสินค้าคืน ตอนตกลงซื้อกัน มันเป็นเม็ดสีเหลือง เปิดมากล่องแรกเจอสีส้ม ของราคาไม่ใช่บาทสองบาท ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นเพื่อน เลยไม่ได้คุยเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ส่งแจ้งเตือนไป แค่พูดคุยให้อีกฝ่ายแก้ไขมีสินค้า 2 ล็อต อีกฝ่ายพยายามบอกว่าตนขายดี ล็อตแรกเป็นสินค้าที่ตนขายยากที่สุดในชีวิต ถึงขั้นเอากล่องวางขายในทีวีไม่ได้ ซื้อป้ายตึกโฆษณาแล้วขึ้นป้ายไม่ได้เพราะสินค้าไม่ผ่าน มีการพูดคุยกันมานานแล้ว ต้องให้ศาลดูว่าสุดท้ายมันเป็นแพ่งหรืออาญา เรื่องคุณภาพตัวเองไม่เคยให้การถึงคุณภาพ แต่สินค้าขายแล้วมันผิดแผน อีกฝ่ายบอกจะแก้ไขให้ ตนมีผู้ถือหุ้น ตนไม่ใช่เจ้าของคนเดียว และสินค้าที่ได้มาขายไม่ได้ ตนส่งศาลไปแล้ว ตนได้รับความเสียหายต้องเรียกกล่องคืนทั้งประเทศ ซึ่งค่าเสียหายตรงนี้ตนเรียกเงินคืน 60 ล้านรวมค่าซื้อโฆษณาตึกด้วย

ตนมองว่าเป็นแพ่ง เพราะบริษัทกับบริษัทมีปัญหาเรื่องการซื้อขาย มันเป็นแพ่ง แต่แล้วแต่ศาลจะพิจารณา ตนไม่ได้ขายแล้วเอาเงินไปบริหารบริษัทต่อ มีหลักฐานเยอะพอสมควร ถ้ามันไม่ได้มีปัญหาอะไรเยอะ ตนก็จะสู้ แต่มันมีอันนึงโฆษณาเกินจริง ตนขายมานาน เจ้าหน้าที่ อย.ขีดมาเลยว่าห้ามขาย แต่มันมีคนบอกให้ตนขายเลย แต่ตนทำไม่ได้เพราะก็มีศักดิ์ศรี ตั้งแต่โควิดมา ก็มีหนี้ ยอมรับว่าเหนื่อยมากตนพยายามพัฒนา ถ้ามีโอกาสก็ยังจะขายของอยู่ มันก็ค่อยๆ ดีขึ้น สู้มาหลายปีแล้ว มันขายไม่ดีตนก็ขาดทุน แต่ก็ใช้หนี้มาตลอด เชื่อว่าเจ้าหนี้เข้าใจ ยังอยู่ สู้อยู่ ยังเชื่อว่าคดีแพ่งจริงๆ ถ้าศาลตัดสินให้ใช้หนี้ตนก็ใช้หนี้

กราบขอบคุณด้วยใจที่เจอคอมเมนต์บอกสินค้าของตนกินดี อะมาโด้ตนได้เอาทั้งชีวิตใส่ไปแล้ว ถ้ามันตายตนก็ตายศาลแพ่งให้จ่ายตามมุมมองการซื้อขาย ตนมีโอกาสอุทธรณ์ก็ได้อุทธรณ์ ศาลตัดสินให้จ่าย 75 ล้าน ก็จ่าย วันนี้เครียด ตอนที่มีดราม่าปี 61 ตอนนั้นมีลูกคนเดียว ตอนนี้มีลูก 5 คนแล้วเราทำธุรกิจมันเป็นเรื่องของการซื้อขาย มันเป็นแพ่ง ไม่น่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยว ตนมีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่นพอว่ามันเป็นสัญญาซื้อขาย มันไม่ใช่การฉ้อโกง ตนยังเป็นลูกหนี้ที่ดี มีหลักฐาน ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย

ส่วนที่ไม่มาชี้แจงตามนัด มีเอกสารให้เลื่อนนัดตามปกติ พอเลื่อนนัดตามปกติสื่อไปตีข่าวว่าเลื่อน ตนไม่เห็นกระดาษที่ส่งมา เพิ่งได้หยิบออกจากตู้ บริษัทตนมีผู้ถือหุ้นเยอะ เลยต้องไปขอเช็กเอกสารตนกับภรรยาเหนื่อยมาก เคยบอกกับตัวเองว่า ไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุขถ้ายังใช้หนี้ไม่หมด เรื่องรถมันเกิดก่อนการเกิดปัญหากับบริษัทที่ฟ้อง ข้อมูลที่ออกรายการมันมีคลาดเคลื่อนเยอะมาก ต้องดูดคลิปเอาไปประกอบ ตำรวจแจ้งนัดหมายอาทิตย์หน้า แค่รับทราบข้อกล่าวหา ถ้าโชคร้ายก็อาจจะโดน

ที่ผ่านมายื่นแจ้งให้บริษัทคู่กรณีมารับสินค้าคืนแล้ว วันนี้ตนมีข้อมูลทางสื่อว่าไปฉ้อโกงโดนคดีเช็ก ตัวฉ้อโกงอันนี้ในส่วนคดีนึงศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้อง ตนไม่ได้ฉ้อโกง มันมี 2 ใบ มีนึงโดน พ.ร.บ. เช็ก ตนโดนเข้าคุกแต่ประกันตัวออกมาจริงรวมเบ็ดเสร็จหนี้ 66 ล้าน รวมสินค้าที่ยังไม่ได้ขาย ตนก็เสียหาย 79 ล้านเหมือนกัน ที่ผ่านมาใช้หนี้ไปหลาย 10 ล้านแล้ว อันนี้เป็นเรื่องของบริษัทกับบริษัท วันนี้อยากขอความเห็นใจ ตนมีสแตนดาร์ดในการส่งตรวจมีหนี้หลายสิบล้านตั้งแต่ปี 64 ใช้หนี้หมดร้อยกว่าล้านก็ใช้หนี้หมด ให้เกียรติกันไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน ตนไม่ได้ยื่นฟื้นฟูนะเพราะลูกค้ายังเชื่อมั่นในตัวของตนเองอยู่ ยังสู้อยู่

 

ข้อมูลข่าว และ รูป
ไทยรัฐ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *